วันนี้เราจะมาแนะนำความเหมือนหรือแตกต่างระหว่างมอเตอร์ไซค์และจักรยานไฟฟ้า ใครกำลังลังเลว่าจะซื้ออะไรดี บทความนี้มีคำตอบ!

หากใครกำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจหรือมองหายานพาหนะใหม่ สำหรับใช้เดินทางในชีวิตประจำวันต้องแวะมาอ่านบทความนี้กันก่อน เพราะวันนี้เราจะมาพูดถึงข้อดีของการใช้จักรยานไฟฟ้าว่าคุ้มค่ากว่าการใช้รถมอเตอร์ไซค์อย่างไร เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้เพื่อน ๆ ได้ใช้ในการชั่งน้ำหนักก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ

ในปัจจุบันจักรยานไฟฟ้า ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ เมื่อเทียบกับรถมอเตอร์ไซค์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการตัดสินใจซื้อจะขึ้นอยู่กับหลากหลายเหตุผลและขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีไซน์ ชื่อเสียงของแบรนด์ไปจนถึงเรื่องของราคา แม้จักรยานไฟฟ้าและมอเตอร์ไซค์จะมีราคาพอกัน แต่ก็มีประโยชน์ที่แตกต่างกัน ถ้าหากอยากรู้ว่าการขับจักรยานไฟฟ้ามีดียังไง ทำไมถึงคุ้มค่ากว่ามอเตอร์ไซค์ ตามมาดูกันเลย!

สำหรับผู้คนที่ต้องการเดินทางในระยะทางใกล้ ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพเซลล์ที่ต้องออกไปหาลูกค้าบ่อย ๆ ในระยะทางใกล้ ๆ วิศวกรที่ต้องออกตรวจหน้างาน ไปจนถึงพ่อบ้านแม่บ้านที่ต้องการมียานพาหนะในการขับไปส่วนกลางของหมู่บ้าน พาลูกน้อยไปขับรถเล่น ไปซื้อข้าวหน้าปากซอย ก็บอกได้เลยว่าการใช้จักรยานไฟฟ้าคุ้มค่ากว่าการใช้รถมอเตอร์ไซค์เห็น ๆ เพราะสามารถชาร์จไฟบ้านได้ ใช้เวลาเพียง 4-5 ชั่วโมง แต่ขับได้ไกลสุด 60 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง เพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน หรือถ้าหากคุณมีความจำเป็นต้องใช้งานแค่ใกล้ ๆ 2-3 กิโลเมตรต่อวัน ก็ไม่จำเป็นต้องชาร์จไฟทุกวัน อาจใช้เวลาชาร์จแค่ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ก็ได้

นอกจากจะได้ขี่จักรยานออกกำลังกายแล้ว ยังสามารถใช้ระบบช่วยปั่นและโหมดไฟฟ้า 100% เพื่อขับขี่บนท้องถนน ไม่จำเป็นต้องใช้แรงปั่นตลอดเวลา สามารถใช้งานได้สะดวกสบายสุด ๆ  

 

จักรยานไฟฟ้ามีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่ามอเตอร์ไซค์ เนื่องจากเป็นการชาร์จไฟบ้าน เฉลี่ยเพียง 5 บาท/การชาร์จ 1 ครั้ง ไม่จำเป็นต้องขับออกไปเติมน้ำมันบ่อย ๆ หรือกังวลว่าน้ำมันจะหมด มีค่าบำรุงรักษาน้อยกว่า ไม่ต้องจ่ายค่าภาษีรถยนต์ ไปจอดนอกสถานที่ก็ไม่ต้องเสียค่าจอดรถ เรียกได้ว่าลงทุนครั้งเดียว คุ้มค่าสุด ๆ ไปเลย

นอกจากนี้คุณยังสามารถแบกจักรยานไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นรถไฟฟ้า ลงเรือข้ามฟาก ต่อรถโดยสารสาธารณะ และยังสามารถแบกไปออกทริปขึ้นภูเขา ขับเลียบชายทะเลได้อีกด้วย

จักรยานไฟฟ้า ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ เนื่องจากจักรยานไฟฟ้าไม่ได้ปล่อยสารเสียที่มีอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมเหมือนมอเตอร์ไซค์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง การใช้จักรยานไฟฟ้าจึงสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษทางอากาศ เหมาะสำหรับสายรักโลกเป็นอย่างยิ่ง

การขับจักรยานไฟฟ้า นอกจากจะได้ความเท่แล้วยังมีโอกาสได้เจอกับสังคมใหม่ ๆ การเข้า Community ของคนที่รักจักรยาน พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น กับกลุ่มคนมีการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ที่เหมือน ๆ กัน เพื่อค้นหาความสุขและเพิ่มความสนุกให้กับการเดินทางได้อีกด้วย

จักรยานไฟฟ้าถือเป็นเทรนด์ใหม่มาแรง และเป็นการพลิกโฉมการใช้ชีวิตของผู้คนเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังสามารถใช้ออกกำลังกายได้ ใช้เข้าสังคมได้ เรียกได้ว่าถ้าได้ขับจักรยานไฟฟ้าไปที่ไหน ก็ดึงดูดทุกสายตาแน่นอน

หากคุณกำลังมองหาความคุ้มค่า และมองหาจักรยานไฟฟ้าคุณภาพสูงอยู่ เราขอแนะนำจักรยานไฟฟ้า แบรนด์ Ryde Culture ที่มีความโดดเด่นเรื่องดีไซน์สุดเท่ ไม่เป็นรองใคร และสเป็คสุดแรง คุ้มค่าต่อการใช้งาน ซึ่งตอนนี้มีออกมาให้เลือกถึง 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Electric FatBike รุ่น RYDE KART สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 45 km./hr. ขับได้ไกลถึง 60 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และ Electric Foldable Fatbike รุ่น RYDEMARK ซึ่งเป็นจักรยานไฟฟ้าพับได้ เคลื่อนย้ายสะดวก ง่ายต่อการเดินทาง  สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 25 km./hr. ขับได้ไกลถึง 35 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง อ่านมาจนถึงตรงนี้แล้ว บอกเราหน่อยว่าเพื่อน ๆ เลือกแบบไหนกัน?

Feature e-Bike รุ่น Ryde Kart

  • ขับได้ 3 รูปแบบ > ขับแบบปั่น | ปั่นโดยใช้มอเตอร์ช่วย | กดเร่ง
  • ชาร์จจากไฟบ้าน (4-5 ชม ต่อ 1 ชาร์จเต็ม)
  • ขับได้สูงสุด 60 km / ชาร์จ (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน)
  • สินค้ารับประกัน 1 ปี
  • เบาะยาวนั่งได้ 2 คน
  • ไฟหน้า และ ไฟหลัง พร้อม ขับขี่บนท้องถนน